ว่ากันด้วยเรื่องของการ “ถ่ายรูป” เรียกได้ว่าเป็นปัญหาที่ใครหลายๆ คนสงสัยและไม่เข้าใจหลักการถ่ายภาพกันอย่างมากมายเลยหล่ะครับ จึงอาจทำให้รู้สึกหงุดหงิดทุกๆ ครั้งถ่ายภาพไม่ได้ดั่งที่ตาคุณเห็น วันนี้เราจึงอยากมาแนะนำทุกๆ ท่านเกี่ยวกับ “5 พื้นฐานการถ่ายรูปที่คุณควรรู้” เพื่อเป็นตัวช่วยทุกๆ ท่านในการถ่ายภาพกันครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น…เราไปชมกันเล้ยย!!
5 พื้นฐานการถ่ายรูปที่คุณควรรู้
●ศึกษาข้อมูลความสามารถของกล้องที่คุณใช้งาน ในเบื้องต้นคุณจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวกล้องว่ามีความสามารถขนาดไหน ความละเอียดของภาพได้ถึงขั้นใด สเปิดชัตเตอร์หรือรูรับแสงมีปัญหาหรือไม่ ซึ่งนี่อาจเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในการที่เราจะถ่ายภาพด้วยกล้องดังกล่าวให้ออกมาสวยๆ ได้
●กฎสามส่วน หรือ Rule of Third กฏนี้ช่วยให้เราถ่ายภาพที่น่าสนใจ สะดุดตาได้ โดยกฎสามส่วน และจุดตัดเก้าช่องนี้ เป็นพื้นฐานที่ยังไงก็ต้องสัมผัสและเข้าใจให้ได้ ซึ่งภาพที่ดูน่าสนใจนั้นใช้การจัดองค์ประกอบภาพโดยใช้กฎสามส่วน และจุดตัดเก้าช่องแทบทั้งนั้นเลย ในการใช้ Rule of Third ให้เราจินตนาการถึงเส้นสี่เส้น แนวนอนสอง และแนวตั้งสอง โดยทั้งหมดนี้จะสร้างเป็นตาราง 9 ช่องด้วยกัน
●ใช้ ฟิลเตอร์สำหรับตัดแสงสะท้อน ซึ่งฟิลเตอร์สำหรับตัดแสงสะท้อนหรือว่า PL Filter จะทำให้ภาพของเราลดการสะท้อนจากโลหะและแก้วลง แล้วยังเพิ่มสีสันให้กับท้องฟ้า ทำให้ภาพของเราดูมีสีสันและมีมิติมากขึ้น สำหรับคนที่ไม่เคยใช้ผมแนะนำลองหามาใช้ดูครับ รับรองว่าภาพที่ได้ โทนสี รายละเอียดภาพที่เคยหายไปเพราะแสงสะท้อน จะกลับมา และทำให้ภาพของเรามีรายละเอียดที่เยอะมากขึ้น
●ถ่าย Portrait ด้วยแสงธรรมชาติ การถ่ายภาพทุกๆ แนวให้พยายามใช้สภาพแสงจากธรรมชาติให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะแสงจากธรรมชาติจะนุ่มนวลโดยเฉพาะในการถ่าย Portrait ควรเลี่ยงการวางตัวแบบที่โดนแสงจากดวงอาทิตย์ตรงๆ เพื่อไม่ให้เกิดความเปรียบต่างระหว่างแสงสว่างและเงา หรือจะใช้แผ่นสะท้อนแสงเพื่อให้แสงนุ่มขึ้นก็ได้เช่นกัน
●เล่นกับระยะของนางแบบหรือนายแบบ ระยะห่างระหว่างคุณกับตัวแบบก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามในการถ่าย Portrait ถ้าเราต้องการเน้นใบหน้าและอารมณ์ของตัวแบบ ก็ให้เข้าไปถ่ายใกล้ๆ ตัวแบบ และอาจจะเน้นใบหน้าของตัวแบบ แต่เมื่อต้องการรายละเอียดรอบๆ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวด้วย ก็ให้ใช้เลนส์มุมกว้างในการจับภาพ เพื่อให้เห็นบรรยากาศรอบๆ
ค่า ISO คืออะไร?
“ISO” หรือ “ความไวแสง ISO” ย่อมาจาก “International Organisation for Standardisation” ซึ่งหมายถึง องค์กรที่กำหนดมาตรฐานสากล เป็นศัพท์ด้านการถ่ายภาพที่ใช้กันอย่างกว้างขวาง ในกล้องฟิล์ม ความไวแสง ISO จะใช้ในการกำหนดความไวต่อแสงของฟิล์มถ่ายภาพ
ในการถ่ายภาพดิจิตอล ความไวแสง ISO จะใช้ในการกำหนดความไวต่อแสงของเซนเซอร์ CMOS
ความไวแสง ISO ที่เพิ่มสูงขึ้นบ่งบอกถึงความไวต่อแสงที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์เมื่อคุณถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย เนื่องจากช่วยให้ถ่ายสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวแบบได้โดยไม่ต้องใช้แฟลช และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับหลายสถานการณ์ เช่น ในกรณีที่คุณถ่ายภาพในที่ร่ม เป็นต้น ซึ่งภ้าเราเพิ่มความไวแสง ISO ความเร็วชัตเตอร์ที่ก็จะปรับจูนตามไปด้วยเช่นกัน ยิ่งเป็นการถ่ายรูปในสถานที่ที่มีแสงสลัว การเพิ่มความไวแสง ISO ช่วยให้แสงเข้าสู่เซนเซอร์ภาพได้มากขึ้น และเอื้อให้คุณสร้างสรรค์ภาพได้คมชัดยิ่งขึ้น
และนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “5 พื้นฐานการถ่ายรูปที่คุณควรรู้” พร้อมกับทำความรู้จักกับ “ค่าความไวแสง (ISO)” ที่เราได้รวบรวมมาฝากท่านผู้อ่านที่สนใจกันในวันนี้ครับ